ผลการศึกษาค้นคว้า
1.อาจารย์ประจำรายวิชาที่สอนได้ส่งหนังสือไปยังโรงเรียนแต่ละโรงเรียนที่นักศึกษาได้คัดเลือกมา เพื่อให้นักศึกษาได้ไปศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนแต่ละโรงเรียน
2.กำหนดการของการลงพื้นที่ไปศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตรสถานศึกษา คือ วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554 โดยสถานศึกษาที่กลุ่มของข้าพเจ้าได้เลือกลงพื้นที่ไปศึกษา คือ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
3.กลุ่มของข้าพเจ้าได้เดินทางโดยรถไฟ ใช้เวลาในการเดินทางร่วมเวลา 4 ชั่วโมง ไปถึงสถานีปลายทาง คือ สถานีโกลก เวลา 11.00 น.
4.เมื่อไปถึงโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ทางคณะอาจารย์ได้มีการต้อนรับกลุ่มข้าพเจ้าเป็นอย่างดี ด้มีการจัดอาหารให้รับประทานก่อนการสัมภาษณ์หลักสูตรสถานศึกษา
5.เวลาประมาณ 13.00 น. กลุ่มของข้าพเจ้าได้เริ่มการสัมภาษณ์ โดยมีอาจารย์ 2 ท่าน คือ เป็นผู้ให้การสัมภาษณ์ ในการสัมภาษณ์มีหัวข้อดังต่อไปนี้
5. 1 ประวัติความเป็นมาและข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน มีอะไรบ้าง
ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์เริ่มแรกเพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีอุปสรรคในการเข้ารับการศึกษาโดยเฉพาะเด็กที่ได้รับการยกเว้นตาม พ.ร.บ.ประถมศึกษาเช่น อยู่ห่างไกล ท้องถิ่นกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก กำพร้าบิดามารดา ขาดผู้อุปการะ หรือภัยคุกคาม โดยรับผิดชอบในเขตการการศึกษา 2 ประกอบด้วยจังหวัด ยะลา ปัตตานี สตูลและนราธิวาส ต่อมาในปีการศึกษา 2543 ทางโรงเรียนได้เปลี่ยนวัตถุประสงค์การรับนักเรียนเป็นการให้ความช่วยเหลือทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสตามที่กระทรวง ศึกษาธิการกำหนด 10 ประเภท เพื่อมุ่งให้เกิดความเสมอภาคทางการศึกษา และได้ขยายพื้นที่บริการการรับนักเรียนจากเดิมรับเฉพาะในเขต 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็น 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยรับนักเรียนจากจังหวัดสงขลา(อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอสะเดา อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา) เพิ่มอีก 1 จังหวัด เมื่อปี พ.ศ.2513 ซึ่งเป็นระยะเริ่มก่อตั้งนั้น โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส มีที่ดิน 220 ไร่ 97 ตารางวา ซึ่งกรมประชาสงเคราะห์กระทรวงมหาดไทย อนุญาตให้ใช้ที่ดินแห่งนี้ ต่อมาทางนิคมสร้างตนเองอำเภอแว้ง ขอที่ดินคืนเพื่อนำไปใช้เป็นที่ดินทำกินของเยาวชน ตามโครงการพระราชดำริสมเด็จพระ-เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและสำนักงานป่าไม้เขตปัตตานี กรมป่าไม้ ขอใช้ที่ดินก่อสร้างสำนักงาน และบ้านพัก ปัจจุบันจึงเหลือพื้นที่อยู่ 190 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา
วันที่ 8 มิถุนายน 2514 เป็นวันแรกที่เปิดเรียนโดยฯพณฯ นายอภัย จันทวิมล รมช. ระทรวงศึกษาธิการสมัยนั้น เป็นประธานในพิธีเปิด โดยสังกัดกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโรงเรียนให้นักเรียนอยู่ประจำ ในปีแรกนี้สามารถรับนักเรียนได้เพียง 41 คน มีครู-อาจารย์ 2 ท่าน คือ
นายโสภณ อนันตโสภาจิตร์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งครูใหญ่และได้ครูจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดในขณะนั้นจัดสรรมาให้อีก 1 ท่านเข้ามาช่วยสอน มีคนงานภารโรงเพียง 3 คน ต่อมาอีก 6 เดือน ได้ครูบรรจุเพิ่มมาอีก 2 ท่าน แล้วก็บรรจุมาเป็น 4 ท่าน ในเวลาต่อมาครูจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจึงขอกลับไปทำงานสถานที่เดิม
ในปี 2514 นั้นเหตุการณ์ต่างๆยังไม่สงบนัก ครู-อาจารย์จึงต้องรักษาเวรยามอย่างเข้มแข็งถึงขั้นนอนในที่มีกำบังมิดชิดคล้ายบังเกอร์ โดยได้จัดขึ้นเป็นชุดๆและได้อาศัยความอุปการะด้านความปลอดภัยจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอแว้ง ที่ได้จัดส่งกำลังให้ รวมถึงชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่มาช่วยเหลือในการรักษาความปลอดภัยในเวลากลางคืน การพัฒนาด้านต่างๆได้ดำเนินเรื่อยมา จำนวนครู-อาจารย์ และคนงาน ภารโรง
เพิ่มขึ้นมาเป็นลำดับ เหตุการณ์ต่างๆที่ไม่น่าไว้วางใจเริ่มสงบลง ทำให้การพัฒนาด้านต่าง ๆ ราบรื่นขึ้น
ในปี การศึกษา 2533 โรงเรียนได้รับอนุมัติจากกรมสามัญศึกษา ให้เปิดทำการสอนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 และปีการศึกษา 2540 โรงเรียนได้รับอนุมัติจากกรมสามัญศึกษาให้เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4
ปี พ.ศ. 2543 กองการศึกษาพิเศษได้แยกออกเป็นกองการศึกษาสงเคราะห์และกองการศึกษาเพื่อคนพิการ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส สังกัดกองการศึกษาสงเคราะห์ กรมสามัญศึกษา
ปี พ.ศ. 2546 มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการตามปฏิรูปการศึกษา โดยโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 2 และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ปีการศึกษา 2549 สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ได้ปรับเขตพื้นที่บริการรับนักเรียนของโรงเรียนจากเดิม 5 จังหวัด เป็น 4 จังหวัด คือ จังหวัดนราธิวาส
ยะลา ปัตตานี และจังหวัดสงขลา(อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอสะเดา อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา)
ปี พ.ศ. 2550 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปัจจุบันโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส ได้เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 25 ห้องเรียน
5. 2 ปรัชญา วิสัยทัศน์ และจุดมุ่งหมายของโรงเรียน มีอะไร
ปรัชญาของโรงเรียน
การศึกษาช่วยพัฒนาชีวิต ทุกคนมีสิทธิทัดเทียมกัน
วิสัยทัศน์
เป็นหน่วยงานจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมุ่งพัฒนาเด็กด้อยโอกาส เน้นการเรียน วิชาชีพความสามารถพิเศษ คุณธรรม จริยธรรม ดำเนินชีวิตแบบพอเพียง เพื่อดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
5.3 บริบท/ลักษณะของชุมชนหรือท้องถิ่นที่อยู่รอบบริเวณโรงเรียนเป็นอย่างไร และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาหลักสูตร อย่างไรบ้าง
“ส่วนใหญ่คนในชุมชนจะประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำไร่ กรีดยาง เป็นต้น สภาพแวดล้อมในท้องถิ่นมีลักษณะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางโรงเรียนจึงกำหนดรายวิชาการอนุรักษ์ธรรมชาติและพันธุ์สัตว์ป่า และกำหนดรายวิชาข้าวไทย เพื่อสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม”
5.4 การพัฒนาหลักสูตรจากหลักสูตรแกนกลาง 51 สู่หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนของท่านมีกระบวนการการพัฒนาหลักสูตรอะไร อย่างไร แต่ละกระบวนการมีอุปสรรค/ปัญหาอะไร และแก้ไขปัญหานั้นอย่างไร
“นำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 มาวิเคราะห์ตัวชี้วัด เพื่อวิเคราะห์ kpa เพื่อหาความรู้ กระบวนการ และลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อมาจัดทำอธิบายรายวิชา ไปสู่หน่วยการเรียนรู้แล้วนำไปสู่การจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนเลย
อุปสรรคและปัญหา คือ หลักสูตรสถานศึกษามีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 มาจนชิน แต่ต้องมาเปลี่ยนแปลงใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ทำให้ไม่ต่อเนื่องกัน”
5.5 ในแต่ละชั้นปี มีรายวิชาเพิ่มเติมและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอะไรบ้างที่โรงเรียนจัดให้แก่ผู้เรียน และจุดเน้นของสถานศึกษาที่จัดรายวิชาเพิ่มเติมคืออะไร
“โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์แบ่งระดับการเรียนอยู่ 3 ช่วงชั้น คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
หลักสูตรศึกษาเพิ่มเติมจะมีเฉพาะระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เช่น รายวิชาภาษาไทย และจะมีในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายศิลป์ เป็นต้น”
5.6 นอกจากคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทั้ง8 ด้าน และสมรรถนะสำคัญทั้ง 5ด้านแล้ว หลักสูตรสถานศึกษาได้เพิ่มคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญเพิ่มหรือไม่ ถ้ามีการเพิ่มเติม พิจารณาเกณฑ์หรือสิ่งใด
“ทางโรงเรียนจะไม่เพิ่มชั่วโมงเรียน แต่ได้เพิ่มทักษะการดำรงชีวิต เนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำ ตั้งแต่ตื่นเช้า เข้าแถว เคารพธงชาติ เก็บขยะ สวดมนต์ จนถึงเข้านอน”
5.7โรงเรียนจัดกิจกรรมหรือโครงการต่างๆอะไรบ้างที่เป็นการส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียน
-การอบรมค่ายคอมพิวเตอร์
-เสริมศักยภาพผู้เรียนเชิงวิชาการ
-การเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารี นอกสถานที่
-การแข็งขันประกวดการทำหุ่นยนต์
5.8โรงเรียนมีนโยบายอย่างไรในการนำหลักสูตรไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียน
“ถ้าหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 เป็นหลักสูตรอิงมาตรฐาน นำมาตรฐานตัวชี้วัดมาจัดแผนการเรียนรู้”
5.9หลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนท่านมีกระบวนการประเมินผลหลักสูตรอย่างไร
“คณะกรรมการหลักสูตรสถานศึกษาเครือข่ายโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ มาทำการวิจัยร่วมกัน”
5.10 ข้อคิดสำหรับนักศึกษาครูเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร
“ในการจัดการเรียนการสอนจะให้ได้ผลควรสอนให้ตรงกับตัวชี้วัดอย่ายึดหนังสือเท่านั้น เพราะหนังสือคือสื่อ ควรยึดตัวชี้วัดเป็นหลัก เพราะนักเรียนทุกคนมีพื้นฐานความรู้แตกต่างกัน จะต้องแบ่งกลุ่มการเรียนการสอนเพื่อจะได้บรรลุผลในการเรียนการสอนและผ่านได้ทุกตัวชี้วัด”
6.เสร็จสิ้นการสัมภาษณ์เวลาประมาณ 14.10 น.
7.กลุ่มของข้าพเจ้าได้ไปสังเกตการณ์สอนเพื่อให้สอดคล้องในหัวข้อการนำหลักสูตรสถานศึกษาสู่การจัดการเรียนในห้องเรียน โดยกลุ่มของข้าพเจ้าได้สังเกตการสอนของอาจารย์ สมจิตร ทองยอด สอนวิชาภาษาไทย
8.จากการสังเกตการณ์สอน อาจารย์มีวิธีการสอนโดยการให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียน ซึ่งอาจารย์จะให้นักเรียนช่วยกันแต่งกลอน แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนจากนั้นช่วยกันแปลความ ตีความหมายของกลอนแต่ละกลอนให้เข้าใจกันทุกคน ซึ่งเป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักคิด ช่วยกันภายในกลุ่ม ฝึกความกล้าแสดงออกของแต่ละคน
9.หลังจากสังเกตการณ์สอนของอาจารย์ สมจิตร ทองยอด เสร็จสิ้น กลุ่มของข้าพเจ้าได้สัมภาษณ์อาจารย์ในหัวข้อดังต่อไปนี้
1-ข้อมูลพื้นฐาน( ภูมิลำเนาเดิม ประวัติการศึกษา ระยะเวลาปฏิบัติการสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ ภาระหน้าที่ ระดับชั้น) มาอย่างคร่าวๆคือ
อาจารย์ตอบว่า-
“ ชื่อนางสาว สมจิตร ทองยอด ตำแหน่งครูผู้ช่วย จบการศึกษามัธยมปลายที่โรงเรียน วรนารีเฉลิมจังหวัดสงขลา และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา คณะครูศาสตร์ เอกภาษาไทย ระยะเวลาที่ปฏิบัติการสอน เป็นเวลา 1 ปี 1เดือน โดยภาระหน้าที่สอนวิชาภาษาไทยเด็กนักเรียน ม.2, ม.3 และสอนเพิ่มเติมอีกด้วย”
2-จากหลักสูตรสถานศึกษาสู่การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน ท่านมีกระบานการนำหลักสูตรไปใช้อย่างไร
อาจารย์ตอบว่า-
“ ขั้นแรกต้องศึกษาดูเนื้อหาในแต่ละชั้นที่กำหนดให้นั้นมีอะไรบ้าง แล้วดูว่าตรงกับเนื้อหาในหลักสูตรหรือไม่ แล้วนำไปสู่การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน โดยเน้นให้เด็กมีมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนเป็นส่วนใหญ่”
3-ท่านมีแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาผู้เรียนทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและคุณลักษณะอันพึงประอย่างไรบ้าง
อาจารย์ตอบว่า-
“ การพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยการใช้วิธีให้เด็กมีส่วนร่วม และมีความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอน มีความรู้มากเท่าไรก็เผื่อแผ่ให้เด็กอย่างมากที่สุด”
4-ผู้เรียนส่วนใหญ่ที่ท่านรับผิดชอบมีลักษณะอย่างไร ถ้าพบปัญหาหรืออุปสรรค ท่านแก้ปัญหาอย่างไร
อาจารย์ตอบว่า-
“ปัญหาที่พบเจอกับผู้เรียน คือ เด็กส่วนใหญ่พูดภาไทยไม่ค่อยชัด วิธีการแก้ไข คือ ครูต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องภาษาที่ใช้ในการพูดของเด็กนักเรียน ต้องฝึกฝนให้เด็กพูดภาษาไทยให้ชัด และบังคับให้ใช้ภาษาไทยใช้ในการสนทนาในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับภาษาไทย และที่สำคัญครูผู้สอนต้องพูดภาษาไทยให้ชัดเพื่อไม่ก่อให้เกิดปัญหาแก่นักเรียนในการเรียนการสอน”
5-ชุมชนในท้องถิ่นได้มีบทบาทหรือส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้หรือไม่ อย่างไร
อาจารย์ตอบว่า-
“ ชุมชนมีส่วนร่วมในการศึกษา โดยมีกรรมการสถานศึกษามาประชุมชี้แจง เกี่ยวกับการแจ้งกำหนดการต่างๆ ซึ่งจะมีการเชิญผู้นำท้องถิ่น เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นต้น และมีการให้เด็กนักเรียนไปศึกษาความรู้จากผู้ที่มีความรู้ ในท้องถิ่น เช่น วิธีการจักสาน การทำขนมสมัยโบราณ เป็นต้น”
6-ข้อคิดเกี่ยวกับนักศึกษาครูเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้
อาจารย์ตอบว่า-
“คุณครูทุกคนต้องมีใจรักในการเป็นครู รู้จักถ่ายทอดให้ได้มากที่สุด ความสำเร็จของคุณครูทุกคนอยู่ที่เด็ก หากเด็กประสบความสำเร็จ ก็ ถือว่าครูก็ประสบผลสำเร็จในการสอน”
10.เมื่อทำการสัมภาษณ์เสร็จสิ้นแล้ว คณะอาจารย์ได้พากลุ่มของข้าพเจ้าไปพักที่ป่าฮาลาบาลา เนื่องจากวันนี้ทางโรงเรียนได้พานักเรียนไปเข้าค่าย กลุ่มของข้าพเจ้าจึงมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้
11. กลุ่มของข้าพเจ้าได้เดินทางกลับในวันที่ 12 มกราคม 2554 เวลาประมาณ 11.00น.หลังจากรับประทานอาหารเช้ากับทางคณะอาจารย์เสร็จแล้ว ซึ่งกลุ่มของข้าพเจ้าได้เดินทางกลับกับรถไฟ